ล้างแค้นที่เมืองไทย! แมนฯ ยูฯ ประเดิมเทน ฮาก ถล่มลิเวอร์พูล 4-0

ปีศาจแดงประเดิมการคุมทีมของ เอริค เทน ฮาก ด้วยการชำระแค้นหงส์แดงในเมืองไทย

LIVE UPDATE แดงเดือด : แมนฯ ยูไนเต็ด - ลิเวอร์พูล
ศึกแดงเดือดครั้งแรกในเมืองไทย "THE MATCH Bangkok Century Cup 2022" ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน เป็นการพบกันระหว่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ดวลกับ ลิเวอร์พูล

เอริค เทน ฮาก กุนซือคนใหม่ของปีศาจแดง ซึ่งประเดิมคุมทัพเป็นนัดแรก วางหมากมาในแผน 4-2-3-1 ใช้หน้าเป้าเป็น อ็องโตนี มาร์กซิยาล ทำเกมรุกร่วมกับ เจดอน ซานโช, บรูโน แฟร์นันด์ส และ มาร์คัส แรชฟอร์ด

ด้านหงส์แดงของ เยอร์เก้น คล็อปป์ ตัดสินใจให้โอกาสบรรดาตัวสำรองและดาวรุ่งลงสนามหลายราย โดยเลือกจัดทัพมาในระบบ 4-3-3 ใช้สามแนวรุกเป็น ฮาร์วีย์ เอลเลียตต์, โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน และ หลุยส์ ดิอาซ

เริ่มเกมได้ 12 นาที เป็นฝั่งของยูไนเต็ดมาได้ประตูขึ้นนำ จากจังหวะที่แนวรับของลิเวอร์พูลสกัดบอลไม่ขาดไปเข้าทาง เจดอน ซานโช ยิงด้วยขวาตุงตาข่าย ส่งให้ปีศาจแดงออกนำ 1-0

จากนั้นนาทีที่ 30 ยูไนเต็ดมาบวกลูกสองเพิ่มได้อีก จากจังหวะที่แนวรับหงส์แดงสกัดกันไม่ขาดไปเข้าทาง เฟร็ด ได้แปด้วยขวาหน้าเขตโทษย้อยโด่งหนีมือ อลิสซอน เบ็คเกอร์ เสียบตาข่ายอย่างเหนือชั้น ช่วยให้ปีศาจแดงหนีห่างเป็น 2-0

หลังเสียลูกสอง ฝั่งของลิเวอร์พูลก็ตัดสินใจเปลี่ยนตัวสำรองแบบเกือบยกชุดถึง 10 ราย เหลือเพียงแค่ อลิสซอน เบ็คเกอร์ คนเดียวเท่านั้นที่ยังอยู่ต่อ ทว่าถัดมานาทีที่ 33 ยูไนเต็ดก็มาได้ประตูที่สามเพิ่มเติมอีก จากจังหวะที่ อ็องโตนี มาร์กซิยาล ลากหลุดเดี่ยวไปชิพด้วยขวาข้ามตัว อลิสซอน อย่างเยือกเย็น ส่งให้ปีศาจแดงนำห่าง 3-0 และจบครึ่งแรกด้วยสกอร์นี้

ครึ่งหลังทั้งสองทีมทยอยเปลี่ยนตัวสำรองลงมาแบบยกชุด โดยเฉพาะฝั่งลิเวอร์พูลซึ่งส่งบรรดากำลังหลักลงมาแบบครบครัน นำโดยกองหน้าตัวใหม่อย่าง ดาร์วิน นูนเญซ

แต่แล้วในนาทีที่ 76 ยูไนเต็ดก็มาบวกลูกสี่ฉีกหนีไปอีก จากจังหวะที่ เอริค ไบญี ลากบอลตั้งแต่แดนหลังขึ้นมากลางสนามแล้วจ่ายให้ ฟากุนโด้ เปยิสตรี แตะไปฝากบอลไปทางฝั่งขวาให้ อาหมัด ดิยัลโล ซึ่งจัดการชิ่งกลับเข้ากลางมาให้ เปยิสตรี ตวัดยิงด้วยขวาเช็ดเสาเข้าไปอย่างเฉียบคม ช่วยให้ปีศาจแดงทิ้งห่าง 4-0

จากนั้นไม่มีประตูเกิดขึ้นเพิ่มเติมอีก ทำให้สุดท้ายจบเกมเป็นแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดถล่มเอาชนะไปได้แบบขาดลอยถึง 4-0

รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (4-2-3-1) : ดาบิด เด เคอา (ทอม ฮีตัน น.68); ดิโอโก้ ดาโลต์ (อารอน วาน-บิสซาก้า น.46), ราฟาแอล วาราน (เอริค ไบญี น.46), วิคเตอร์ ลินเดอเลิฟ (อเล็กซ์ เตลลิส น.46), ลุค ชอว์ (ทีเรลล์ มาลาเซีย น.46); สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ (ซีดาน อิกบาล น.46), เฟร็ด (ชาร์ลี ซาเวจ น.46); เจดอน ซานโช (ฟากุนโด้ เปยิสตรี น.46), บรูโน แฟร์นันด์ส (ดอนนี ฟาน เดอ เบ็ค น.46), มาร์คัส แรชฟอร์ด (แอนโธนี อีแลงก้า น.46); อ็องโตนี มาร์กซิยาล (อาหมัด ดิยัลโล น.46)

สำรองไม่ได้ใช้ : อีธาน แลร์ด, ตาฮิธ ชอง, ฮานนิบาล เมจบรี้

ลิเวอร์พูล (4-3-3) : อลิสซอน เบ็คเกอร์ (อาเดรียน น.46); ไอแซค มาบายา (เมลคามู เฟราเอ็นดอร์ฟ น.32 (เทรน อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ น.61)), แน็ค ฟิลลิปส์ (โฌแอล มาติป น.32 (อิบราฮิมา โกนาเต้ น.61)), โจ โกเมซ (รีส วิลเลียมส์ น.32 (เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ น.61)), ลุค แชมเบอร์ส (คอสตาส ซิมิคาส น.32 (แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน น.61)); ไทเลอร์ มอร์ตัน (อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน น.32 (โธมัส ฮิลล์ น.61)), จอร์แดน เฮนเดอร์สัน (เลห์ตัน คลาร์กสัน น.32 (ฟาบินโญ น.61)), ฟาบิโอ คาร์วัลโญ (เจมส์ มิลเนอร์ น.32 (ติอาโก้ อัลคันทารา น.61)); ฮาร์วีย์ เอลเลียตต์ (สเตฟาน บายเซติช น.32 (นาบี เกอิต้า น.62)), โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน (บ็อบบี้ คลาร์ก น.32 (ดาร์วิน นูนเญซ น.61)), หลุยส์ ดิอาซ (เคอร์ติส โจนส์ น.32 (โมฮาเหม็ด ซาลาห์ น.61))

สำรองไม่ได้ใช้ : เบน เดวีส์, เซปป์ ฟาน เดน เบิร์ก, เจมส์ นอร์ริส, ฟาเบียน มโรเซ็ค